เมื่อถูกล้อมรอบด้วยภูเขาหิมะรอบด้านแล้ว เมืองอินสบรุคจะทำให้คุณรู้สึกด้อยค่าไปเลยทีเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับธรรมชาติอันงดงามของเทือกเขาอัลไพน์ หากจะเปรียบเทียบกันทีละจุดแล้วละก็ ที่นี่มีทั้งทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ และความเป็นชุมชนเมืองเก่าแก่ที่มีความสลับซับซ้อน อัลท์ชตัดท์เป็นเมืองในยุคกลางของอินสบรุคที่ทำให้คุณหลงใหลในสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและร้านรวงต่างๆนับไม่ถ้วน ระหว่างเดินเที่ยวชมเมืองอัลท์ชตัดท์ ยังมีสถานที่อีกแห่งที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของอัลท์ชตัดท์ นั่นคือ the Golden Roof บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่จักรพรรดิแมกซิมีเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเตลือบทองแดงลงรักนับพันชิ้นเพื่อให้ดูราวกับทองคำบริสุทธิ์
อันดับ 4 st Anton am Arlberg (ซังค์อันทน อัม อัลเบิร์ก)
แหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมในออสเตรียคือ St Anton am Arlberg (ซังค์ อันทน อัม อัลเบิร์ก) ตั้งอยู่ในทีโรล หมู่บ้านแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นสกีผาดโผน เพราะพื้นที่ค่อนไปทางวิบาก จึงเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น St Anton มีคำกล่าวที่ไม่ค่อยดีนักที่ว่า จงทำงานให้หนัก และกินเที่ยวให้หนักด้วยเช่นเดียวกัน พื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ตลอดฤดูหนาว เช่นเดียวกับฤดูร้อน ก็พร้อมต้อนรับเหล่านักปีนเขา ที่ทยอยหลั่งไหลมาชื่นชมความงดงามในแต่ละปี หากคุณกำลังมองหาช่วงเวลาแห่งความสุขละก็ St Anton ทำให้ความต้องการของคุณเป็นจริงได้
อันดับ 3 ถนน Grossglockner Alpine
ภาพจาก www.maishofen.com
Grossglockner Alpine เป็นถนนที่มีความยาวมากมุ่งสู่ยอดเขาซึ่งเป็นจุดชมวิวจุดหนึ่งชื่อ Kaiser Franz Josefs Höhe ที่นี่คุณจะมองเห็นภูเขาที่สูงที่สุดในออสเตรียได้อย่างรอบด้านโดยไม่มีสิ่งใดมาบดบังให้เกะกะสายตา ภูเขาลูกนี้มีชื่อว่า Grossglockner ส่วนถนน Grossglockner Alpine มีลักษณะคล้ายทางด่วนบ้านเรา คือต้องจ่ายค่าใช้ถนนซึ่งมีราคาแพงแต่คุ้มค่าเมื่อได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามบนภูเขาสูง ถนนเส้นนี้ โดยปกติจะเปิดใช้ได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคมของทุกปี